สำหรับคนมีอาการไอ และหายใจไม่ออกบ่อยๆ แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคหอบหืด หรือ โรคภูมิแพ้
พลาดคอนเทนท์นี้ไม่ได้เลยนะคะ เพราะเพจ Nasol Spray จัดมาให้แล้ว กับความแตกต่าง 3 ข้อที่แยกให้เห็นกันแบบชัดๆไปเลยว่า ทั้งสองโรคนี้แตกต่างกันอย่างไร เริ่มตั้งแต่สาเหตุการเกิด อาการของโรค รวมไปถึงวิธีการรักษา
สาเหตุของโรค
โรคภูมิแพ้เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานมากจนเกินไป สืบเนื่องมาจากการที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ซึ่งร่างกายก็จะตอบสนองด้วยการขับสารภูมิต้านทานออกมาเพื่อขับสิ่งแปลกปลอบออก โดยสารภูมิต้านทานเหล่านี้จะก่อให้เกิดการอักเสบและอาการแพ้แก่ร่างกายของเราขึ้นนั่นเองค่ะ
โรคหอบหืด มีสาเหตุการเกิดหลักๆ อยู่ 2 อย่าง ได้แก่...
1.ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม ผู้ป่วยจะมีอาการเมื่อถูกกระตุ้นจากปัจจัยแวดล้อม เช่น ละอองเกสร ไรฝุ่น และขนสัตว์ เป็นต้น
2.ปัจจัยทางพันธุกรรม หากพ่อแม่เป็นโรคหอบหืดก็อาจจะถ่ายทอดทางพันธุกรรมไปสู่รุ่นลูกหรือรุ่นหลานได้ค่ะ หรือ อาจจะทำให้ลูกหลานมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าคนทั่วไป
อาการของโรค
อาการที่สังเกตได้ง่ายของคนเป็นภูมิแพ้ คือ มีอาการไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล รวมไปถึงมีอาการระคายเคืองและผดผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง คันรอบดวงตา และอาจจะเกิดผิวหนังอักเสบแห้งลอกขึ้นได้ค่ะ ซึ่งหากแพ้ขั้นรุนแรง อาจจะมีอาการท้องร่วง แน่นหน้าอก และหายใจไม่ออกร่วมด้วยค่ะ
ส่วนคนที่เป็นหอบหืด จะมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก จนรู้สึกเหมือนหายใจไม่อิ่ม เหนื่อยหอบ ไอและมีเสมหะ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนและเช้ามืด หรืออาจจะเกิดขึ้นเมื่อสัมผัสสิ่งกระตุ้น
แนวทางการรักษา
สำหรับการรักษาโรคหอบหืด จะใช้ 2 แนวทางร่วมกัน คือ การรักษาภาวะอักเสบเพื่อทำให้อาการของโรคสงบลง และการป้องกันการกำเริบของโรคโดยหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่างๆ
ส่วนการรักษาโรคภูมิแพ้ จะเริ่มตั้งแต่การค้นหาสารก่อภูมิแพ้ หรือ สิ่งกระตุ้นที่ให้เกิดการแพ้ หลังจากนั้นจะเลือกใช้ยาที่เหมาะสมในการรักษา แต่หากรักษาด้วย 2 ขั้นตอนแรกแล้วไม่ได้ผล สามารถใช้วัคซีนสารก่อภูมิแพ้รักษาได้ แต่วิธีนี้จะไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เพราะใช้เวลานานและต้องเจ็บตัวระหว่างรักษาค่ะ
Comments