คนที่เคยเจอกับปัญหาคัดจมูก หรือหายใจไม่คล่อง ไม่ว่าจะเกิดจากไข้หวัด หรืออาการภูมิแพ้ ก็ย่อมรู้ดีว่าทั้งน่าเบื่อ น่ารำคาญ และทรมานมากแค่ไหน วันนี้ Nasol Spray จึงขอนำวิธีแก้ไขที่ง่ายที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุด อย่างยาแก้คัดจมูกชนิดรับประทาน และยาแก้คัดจมูกชนิดพ่น พร้อมข้อมูลต่างๆที่มีประโยชน์อย่างข้อดี-ข้อเสียมาฝากกันค่ะ
ถ้าอยากรู้แล้วว่าวิธีการไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด มาดูไปพร้อมๆกับเรากันเลยค่ะ :)
ยาแก้คัดจมูก ชนิด รับประทาน!!
สำหรับยาแก้คัดจมูก ชนิด รับประทาน จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ ซูโดเอฟริดรีน (Pseudoephedrine) และฟีนิลเอฟรีน (Phenylephrine) โดยยาทั้ง 2 กลุ่มจะออกฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดฝอยบริเวณเยื่อบุโพรงจมูกหดตัว จึงส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงได้น้อยลง และตามมาซึ่งการหลั่งของเมือกที่ลดลง จมูกจึงโล่งและสบายมากยิ่งขึ้น
ข้อดี
-แสดงผลยาวนาน
-มีโอกาสก่อให้เกิดการระคายเคืองน้อย
-สามารถใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนานได้ โดยไม่ก่อให้เกิดอาการ Rebound decongestion
ข้อควรระวัง
-ออกฤทธิ์ช้ากว่าการใช้ยาพ่นจมูก
-ไม่ควรใช้ยากับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี
-ควรระมัดระวัง และปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยากับผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยต้อหิน ต่อมลูกหมากโต
-สำหรับยากลุ่มซูโดเอฟริดรีน ไม่ควรใช้ร่วมกับยารักษาโรคซึมเศร้าในกลุ่ม MAOI
ยาแก้คัดจมูก ชนิด พ่น!!
อีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคนที่มีอาการคัดจมูก คงหนีไม่พ้นยาแก้คัดจมูกชนิดพ่น หรือ ที่รู้จักกันดีในชื่อ
“ยาพ่นจมูก” ซึ่งออกฤทธิ์ได้ดีไม่ต่างจากชนิดรับประทานเลยนะคะ โดยยาตัวนี้จะเข้าไปลดอาการบวมของหลอดเลือดและเนื้อเยื่อจมูก จึงทำให้อาการคัดจมูกบรรเทาลงอย่างรวดเร็ว
ยาพ่นจมูก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการออกฤทธิ์ที่รวดเร็ว หรือ คนไม่ต้องการให้มีอาการง่วง หรือ มึนงงระหว่างการใช้ยาค่ะ
ข้อดี
-เห็นผลรวดเร็วหลังใช้
-ออกฤทธิ์เฉพาะที่
-ไม่เกิดอาการง่วงหลังใช้ยา
ข้อควรระวัง
-ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 7 วัน
-หากใช้บ่อยอาจทำให้เกิดอาการจมูกแห้ง
-ผู้ป่วยควรศึกษาฉลากยา และปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนใช้ เพราะยาพ่นจมูกแต่ละชนิดจะมี
ส่วนประกอบที่แตกต่างกันไป จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงแตกต่างกัน
Comments